เกี่ยวกับประเทศเกาหลี

KOREAN CULTURAL CENTER

  • เกี่ยวกับประเทศเกาหลี
  • สังคม
  • ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับประเทศเกาหลี

เกาหลีมีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์และระบบการเขียนของตัวเองเรียกว่า "ฮันกึล" ซึ่งเป็นอักษรที่ทรงประดิษฐ์ขึ้นโดยโดยพระเจ้าเซจง (1397-1450) ในสมัยโชซอน ซึ่งชาวเกาหลีภูมิใจกับความสำเร็จนี้มาก โดยฮันกึลได้รับการยอมรับว่าเป็นอักษรที่มีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน โดยมีการบันทึกการประกาศใช้อย่างชัดเจน ฮันกึลประกอบด้วยพยัญชนะ 14 ตัว และสระ 10 ตัว รวมเป็นอักษร 24 ตัว ที่สามารถแสดงเสียงทั้งหมดที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์ได้


ลักษณะทางภูมิศาสตร์และภูมิประเทศ


คาบสมุทรเกาหลี (ละติจูดที่ 33˚ - 43˚ และลองจิจูดที่ 124˚ - 132˚) ตั้งอยู่ในตอนกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มีประเทศจีนขนาบอยู่ทางตะวันตก และญี่ปุ่นทางตะวันออก คาบสมุทรนี้มีความยาวลองติจูด (เหนือ-ใต้) 950 กิโลเมตร และกว้างตามแนวละติจูด (ตะวันออก-ตะวันตก) 540 กิโลเมตร พื้นที่ทั้งหมดของสาธารณรัฐเกาหลีคือ 100,364 ตร.กม. โดยทิศเหนือติดกับทวีปเอเชีย และล้อมรอบด้วยน้ำทะเลทั้ง 3 ด้าน มีพื้นที่ราบ 30% และพื้นที่ที่เป็นภูเขา 70% แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขา แต่มีภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรเพียง 15% ในขณะที่ภูเขาที่มีความสูงต่ำกว่า 500 เมตรคิดเป็น 65% ของพื้นที่ภูเขาทั้งหมด







เทือกเขาแทแบกซานพาดยาวผ่านคาบสมุทร โดยเทือกเขาฝั่งตะวันออกจะสูงชันกว่าทางฝั่งตะวันตก แม่น้ำทั้งสายเล็กและใหญ่มีต้นน้ำมาจากพื้นที่ภูเขาสูงทางทิศตะวันออกและไหลมาบรรจบลงทะเลตะวันตกและทะเลใต้ ก่อให้เกิดเป็นพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำที่เหมาะแก่การเพาะปลูกธัญพืช 


สภาพอากาศอันเกิดจากพื้นที่ภูเขาทางทิศตะวันออกมีผลกระทบต่อชีวิตของผู้คน ลมตะวันออกที่พัดผ่านเทือกเขาสูงก่อให้เกิดปรากฏการณ์เฟิห์น (Foehn effect) ก่อให้เกิดลมที่ร้อนและแห้งในฝั่งตะวันตกของทิวเขา แม้จะทำให้เส้นทางการเดินทางมีความยากลำบากและการพัฒนาล้าหลังเมื่อเทียบกับพื้นที่ภูเขาสูงทางตะวันตก แต่การพัฒนาอย่างช้าๆ ทำให้มีข้อดีสำหรับผู้คนที่อยู่อาศัยในท้องถิ่น คือมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงามที่ยังไม่ถูกทำลาย และปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาสัมผัส 


แนวชายฝั่งทะเลตะวันออกค่อนข้างเรียบตรง ไม่มีลักษณะพิเศษ และมีระดับน้ำขึ้น-น้ำลงต่างกันเพียง 30 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ทะเลตามแนวชายฝั่งมีความลึกมากกว่า 1,000 เมตร จากการวัดด้วยคลื่นเสียงโซนาร์ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักงานอุทกศาสตร์และสมุทรศาสตร์แห่งเกาหลี แสดงให้เห็นว่าส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลตะวันออกอยู่ที่บริเวณตอนเหนือของเกาะอุลลึงโด (ลึก 2,985 เมตร) ในทางกลับกันทะเลทางฝั่งตะวันตกมีลักษณะตื้นเขินซึ่งก่อให้เกิดลักษณะทางธรณีเป็นที่ราบที่น้ำขึ้นถึง 


ในช่วงฤดูท่องเที่ยวในฤดูร้อนมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปหลบร้อนตามชายหาดแฮอุนแด ในปูซานกว่า 1 ล้านคนต่อวัน และยังมีชายหาดชื่อดังอื่นๆ เช่น หาดคยองโพแด ในคังนึง และหาดแดจอนในฝั่งทะเลตะวันตก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูร้อนเช่นกัน


ในฤดูหนาวผู้คนทั่วประเทศสนุกสนานกับการเล่นสกีและสเก็ตน้ำแข็ง มีลานสกีหลายแห่งในจังหวัดคังวอนโด บางครั้งภายในเวลา เพียง 1 - 2 วัน หิมะในแถบภูเขาของจังหวัดคังวอนโดอาจตกสูงถึง 50 - 60 เซนติเมตร ในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง อุณหภูมิเฉลี่ยตอนกลางวันจะอยู่ที่ประมาณ 15 - 18 องศาเซลเซียส ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศปลอดโปร่ง เย็นสบาย เชื้อเชิญให้ผู้คนออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเดินทางท่องเที่ยว 


คลื่นความร้อนในฤดูร้อนกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นและช่วงฝนตกได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ในช่วงฤดูมรสุมในอดีต ฝนเคยตกทั่วประเทศเนื่องจากอิทธิพลของหน้าฝน ทุกวันนี้มักจะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ในฤดูหนาว มีหิมะตกหนักในบางพื้นที่เช่นกัน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่อากาศที่หนาวเย็นและอบอุ่นจะสับเปลี่ยนกันบนคาบสมุทรทุกๆ 3 หรือ 4 วัน แต่รูปแบบนั้นก็หายไปเกือบหมดแล้วเช่นกัน



ประชากร

นักโบราณคดีเชื่อว่ามีมนุษย์เข้ามาตั้งรกรากยังคาบสมุทรเกาหลี ราว 700,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชในช่วงยุคหินเก่า คาดว่าเกาหลีใต้มีจำนวนประชากรอยู่ที่ 51.71 ล้านคน ในปี 2019 และตามสำมะโนประชากรและเคหะในปี 2018 มีจำนวนประชากรร้อยละ 49.8 อาศัยอยู่ในกรุงโซล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากร้อยละ 49.1 ในปี 2010 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มชัดเจนต่อความหนาแน่นของประชากรในเมืองหลวง


ในขณะที่เกาหลีใต้กำลังประสบปัญหาอัตราการเกิดต่ำได้กลายเป็นปัญหาที่ร้ายแรงของประเทศ ในปี 2019 อัตราการเกิดลดลงอยู่ที่ 0.92 โดยจำนวนทารกแรกเกิดอยู่ที่ 302,700 คน ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะเดียวกัน อายุขัยของชาวเกาหลีใต้อยู่ที่ 82.7 ปี (ตามข้อมูลในปี 2018) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ที่อยู่ที่ 80.7 ปี


นับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตลอดจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 มีประชากรชาวเกาหลีจำนวนมากอพยพออกนอกประเทศ ในระยะแรกประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางหลักคือ ประเทศจีน และรัสเซีย ส่วนช่วงกลางศตวรรษที่ 20 หลังจากการประกาศอิสรภาพเกาหลีในปี 1945 ประเทศสหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักของชาวเกาหลี แม้ว่าชาวเกาหลีได้มีการอพยพไปยังภูมิภาคต่างๆ หลากหลายทั่วโลก รวมถึงทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ ทำให้ชาวเกาหลีใต้โพ้นทะเลมีจำนวน 7.49 ล้านคน (ในปี 2019) โดยสถิติแสดงให้เห็นว่ามีจำนวนเกาหลีพำนักมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา (2.54 ล้านคน) รองลงมาคือจีน (2.46 ล้านคน) และญี่ปุ่น (820,000 คน)


ตั้งแต่ปี 2011 จำนวนประชากรที่ไหลเข้าสุทธิมีมากกว่าการไหลออกสุทธิ มีจำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่หรือทำงานในประเทศเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แม้จะมีความผันผวนทุกปี แต่จำนวนชาวต่างชาติที่ไหลเข้าโดยรวมก็เพิ่มขึ้น ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติเกาหลีใต้ มีจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาในเกาหลีถึง 293,000 ในปี 2010 เพิ่มขึ้นเป็น 373,000 ในปี 2015 และ 438,000 ในปี 2019 ตามลำดับ ในแง่ของวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ การพำนักระยะสั้น (34.5%) อยู่ในอันดับต้น ๆ รองลงมาคือการจ้างงาน (26%) การศึกษา (14.9%) และการเดินทางเข้ามาของชาวเกาหลีโพ้นทะเล (12%) แม้ว่าจะไม่รวมอยู่ในการจัดอันดับหลัก แต่จำนวนผู้คนที่เข้ามาในประเทศเนื่องจากการพำนักถาวรและการแต่งงานเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี (จากข้อมูลปี 2019)



ภาษาและตัวอักษร

เกาหลีมีภาษาที่เป็นเอกลักษณ์และระบบการเขียนของตัวเองเรียกว่า "ฮันกึล" ซึ่งเป็นอักษรที่ทรงประดิษฐ์ขึ้นโดยพระเจ้าเซจง (ค.ศ. 1397–1450)


ในสมัยโชซอน ซึ่งชาวเกาหลีภูมิใจมากกับความสำเร็จนี้มาก ฮันกึลเป็นได้รับการยอมรับว่าเป็นอักษรที่มีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งาน และที่สำคัญที่สุด การประกาศใช้นั้นได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจนเป็นเอกลักษณ์ระดับโลก


ฮันกึลประกอบด้วยพยัญชนะ 14 ตัว (ㄱ ㄴ ㄷ ㄹ ㅁ ㅂ ㅅ ㅇ ㅈ ㅊ ㅋ ㅌ ㅍ ㅎ) และสระ 10 ตัว (ㅏ ㅑ ㅓ ㅕ ㅗ ㅛ ㅜ ㅠ ㅡ ㅣ) ที่สามารถแสดงเสียงทั้งหมดที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์ได้ โดยที่ในทุกปี ยูเนสโกจะมอบรางวัล King Sejong Literacy Prize ให้กับผู้ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้คนอ่านออกเขียนได้ การนำชื่อ “พระเจ้าเซจง” ไปตั้งเป็นชื่อรางวัลนั้นแสดงถึงการยอมรับไปโดยปริยายถึงผลงานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ได้ทรงประดิษฐ์อักษรฮันกึล ระบบเขียนที่เรียนรู้ได้เร็วและใช้ได้ง่าย







พิพิธภัณฑ์ฮันกึลแห่งชาติ

พิพิธภัณฑ์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์ เผยแพร่ และสร้างคุณค่าของฮันกึลและวัฒนธรรม ตัวอักษรฮันกึลที่จัดแสดงใน

โซนภาพถ่ายโดยจัดแสดง ณ ห้องโถงนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์




ธงชาติ (แทกึกกี)

ธงชาติของเกาหลีประกอบด้วยรูปแบบแทกึก (หยินหยาง) สีแดงและน้ำเงินตรงกลาง และมีขีด 3 ขีด สีดำที่มุมทั้ง 4 บนพื้นสีขาว แทกึกกีได้ใช้เป็นธงชาติเป็นครั้งแรกเมื่อประกาศจักรวรรดิเกาหลีในปี 1897 ในปัจจุบันรูปแบบเปลี่ยนไปจากธงที่ใช้ในขณะนั้นบ้าง


หลักๆ มีการออกแบบโดยใช้ลวดลายแทกึกที่ชาวเกาหลีนิยมใช้กันมานานในชีวิตประจำวัน ธงประจำชาติแสดงถึงอุดมคติของชาวเกาหลีในการสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบและความเจริญรุ่งเรืองที่กลมกลืนกับจักรวาล พื้นหลังสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความสดใส ความบริสุทธิ์ และคุณลักษณะทางชาติพันธุ์ที่รักสันติ แทกึกเป็นสัญลักษณ์ของความกลมกลืนระหว่างหยิน (สีน้ำเงิน) และหยาง (สีแดง) ซึ่งรวบรวมความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติว่า ทุกสิ่งในจักรวาลถูกสร้างขึ้นและพัฒนาผ่านปฏิสัมพันธ์ระหว่างหยินและหยาง


ส่วนขีด 3 เส้น ที่มุมทั้ง 4 แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของหยินและหยางที่เคียงคู่กันเสมอ “taegeukgi_symbol_yin.png ” แสดงถึงหยิน ส่วน “taegeukgi_symbol_yang.png ” สื่อถึง หยาง รวมกันเป็น taegeukgi_symbol3_geongwae.png [คอน-กแว] สวรรค์, taegeukgi_symbol4_gongwae.png[คน-กแว] โลก, taegeukgi_symbol5_gamgwae.png [คัม-กแว] น้ำ และ taegeukgi_symbol6_igwae.png[อี-กแว] ไฟ การล้อมรอบแทกึกทั้ง 4 มุมสื่อถึงการเคลื่อนที่และผสมสผสานของแทกึก



เพลงชาติ (แอกุกกา)

แอกุกกา เพลงชาติของเกาหลีใต้ ประพันธ์ขึ้นในปี 1953 โดยนายอัน อิก-แท ผู้เพิ่มทำนองให้กับเนื้อเพลงที่เขียนขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 ในขั้นต้น เพลงชาติได้ขับร้องในทำนองเพลงพื้นบ้านของสก็อตแลนด์ เพลง Auld Lang Syne (สามัคคีชุมนุม) และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการกับการจัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีในเดือนสิงหาคม 1948



ดอกไม้ประจำชาติ (มูกุงฮวา)

มูกุงฮวา หรือดอกชบา เป็นดอกไม้ประจำชาติของเกาหลีใต้ มีความหมายตามตัวอักษรว่า “ดอกไม้ที่ไม่เคยเหี่ยวเฉา” มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับลักษณะนิสัยของคนเกาหลีที่มีความจริงใจ มุ่งมั่น และอดทน เพลงชาติเกาหลีมีท่อนที่ว่า “แม่น้ำลำธารและขุนเขางามพิลาศยาวสามพันลี้ ปกคลุมไปด้วยดอกมูกุงฮวาที่ชูช่อบานสะพรั่ง" อีกทั้งตราสัญลักษณ์ของรัฐบาลและรัฐสภาก็มีรูปทรงของดอกมูกุงฮวาเช่นกัน







ระบบการเมือง

ประเทศเกาหลีใช้ระบอบประธานาธิบดี ซึ่งได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือยุน ซอก-ยอล เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 20 ของเกาหลีใต้เมือวันที่ 10 พฤษภาคม 2022


รัฐบาลเกาหลีแบ่งแยกอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติที่ประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภา 300 คน มีวาระการทำงาน 4 ปี และฝ่ายตุลาการซึ่งมีผู้พิพากษาศาลฎีกา 14 คน มีวาระการทำงาน 6 ปี มีหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาค 17 หน่วย และหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่น 226 หน่วย หัวหน้าหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นมีวาระการทำงาน 4 ปี



การแบ่งแยกดินแดน 


ในปี 1948 เกาหลีทั้งสองได้จัดตั้งรัฐบาลของตนขึ้น ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) แยกอิสระเป็น 2 ประเทศตามกฎบัญญัติของกฎหมายระหว่างประเทศ โดยทั้ง 2 ประเทศได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสหประชาขาติพร้อมกัน อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้ถือว่าเกาหลีเหนือเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเกาหลี