กิจกรรม 'เทศกาลกิมจิ' <Merry Kimchi Day>
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน 'เทศกาลกิมจิ' เพื่อส่งเสริมกิมจิและสัมผัสประสบการณ์ “กิมจัง” ซึ่งหมายถึงการทำกิมจิจำนวนมากๆ ในฤดูหนาว ณ ใจกลางกรุงเทพมหานคร
เริ่มงานด้วยการแสดงกิลโนรี ขบวนแห่แบบดั้งเดิม ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทตีของเกาหลี เพื่อเป็นการพาเข้าสู่พิธีการ ต่อด้วยโชว์เทควันโดโดยทีมเทควันโดพุมเซ่ทีมชาติไทย
หลังจากนั้น ฯพณฯนายปาร์ค ยงมิน กล่าวเปิด "เช่นเดียวกับที่ชาวเกาหลีชอบปูผัดผงกระหรี่ ต้มยำกุ้ง และส้มตำ ชาวไทยเองก็ชื่นชอบอาหารเกาหลีอย่างกิมจิ ซัมกยอบซัล (หมูสามชั้นย่าง) และซุนดูบูจิแก (ซุปเต้าหู้อ่อน) และในประเทศไทยก็มีกิมจิที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ผักชีและกิมจิมะละกอ 'กิมจัง' ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO เมื่อปี 2013 เนื่องจากเป็นการปฏิบัติด้วยจิตวิญญาณแห่งการแบ่งปัน การทำกิมจังกับคนไทยและแบ่งปันกับเพื่อนบ้านมีความหมายมาก"
จากนั้น ผู้เข้าร่วมกว่า 400 คนได้ร่วมทำกิมจิ โดยมีคุณยุน แดซุก เจ้าของร้านอาหารเกาหลีเมียงคาเป็นผู้นำในการทำกิมจิ
คุณณัฐวุฒิ หนึ่งในผู้ร่วมงานกล่าวว่า "ผมเข้าร่วมงานนี้เพราะได้ยินว่าเราสามารถนำกิมจิที่ทำในงานกลับไปครึ่งนึงและบริจาคอีกครึ่งนึงได้ วันนี้ผมมากับลูกสาวด้วย รู้สึกดีใจมากที่ได้สัมผัสวัฒนธรรมต่าง ๆ ของเกาหลีได้ในงานนี้"
การแข่งขันกิมจิโดยใช้วัตถุดิบอาหารไทย มี 5 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบคัดเลือกออนไลน์ เข้าแข่งขันเพื่อชิงสูตรกิมจิที่ดีที่สุดสำหรับรสชาติไทย หลังจากการแข่งขันกิมจิไทยต่างๆ ได้แก่กิมจิใช้ดอกบัว (ดอก สายบัว รากบัว) กิมจิผัดไทย และกิมจิกะปิ ผู้ชนะคือ กิมจิผัดไทย
สุดท้ายนี้ ฯพณฯนายคุณปาร์ค ยงมิน ได้มอบกิมจิ 1,000 กิโลกรัม ให้กับตัวแทนมูลนิธิเอสโอเอส ภายในงานมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารเกาหลีมากมายแสดงให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ชิมฟรีด้วย
ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีจะพยายามส่งเสริมอาหารเกาหลีผ่านกิมจิและการทำอาหารเกาหลีต่อไป
- ไฟล์แนบ