ประธานาธิบดีมุน แจอิน เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพูดคุยเพื่อแก้ไขความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีอย่างต่อเนื่อง และเปิดศักราชใหม่แห่งสันติภาพ โดยเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาได้ตอบสนองต่อความมุ่งมั่นและความจริงใจของเขา และเปิดฉากสันติภาพในช่วงกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวพยองชาง 2018 (PyeongChang 2018 Olympic Winter Games) ที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรมากขึ้น
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 ประธานคณะกรรมการกิจการแห่งรัฐ นายคิม จองอึน ได้ข้ามพรมแดนมายังเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสองเกาหลีที่จัดขึ้นที่อาคารสันติภาพ (Peace House) ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของหมู่บ้านชายแดนปันมุนจอม ซึ่งนับว่าเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่ได้ย่างเท้าเข้ามายังดินแดนเกาหลีใต้ ในระหว่างการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์นี้ ประธานาธิบดีมุน แจอิน และผู้นำคิม จองอึน ตกลงที่จะอำนวยความสะดวกในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีให้ดียิ่งขึ้น และสร้างกระบวนการสันติภาพที่ถาวรและมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีโดยลงนามใน “ปฏิญญาปันมุนจอมเพื่อสันติภาพ ความรุ่งเรือง และการรวมชาติบนคาบสมุทรเกาหลี”
ประธานาธิบดีมุน แจอิน และผู้นำคิม จองอึน เดินบนสะพานในหมู่บ้านปันมุนจอม
ข้อตกลงที่สำคัญในปฏิญญาปันมุนจอม มีดังนี้
△การยืนยันการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์และคาบสมุทรเกาหลีที่ปลอดนิวเคลียร์ △การจัดการประชุมพหุภาคีเพื่อประกาศยุติสงครามภายในปี 2018 และสร้างกระบวนการสันติภาพที่ถาวรและมั่นคง △ประธานาธิบดีมุน แจอินจะเยือนเปียงยางตามแผน ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 และการจัดประชุมระหว่างผู้นำ
△การจัดตั้งสำนักงานประสานงานร่วมกับผู้แทนของทั้งสองฝ่าย △ยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันและเปลี่ยนเขตปลอดทหารให้เป็นเขตสันติภาพ △ โครงการรวมญาติของครอบครัวที่แยกจากกันเนื่องในวันประกาศอิสรภาพในวันที่ 15 สิงหาคมและผลักดันการแลกเปลี่ยนในทุกระดับ △การเชื่อมต่อและการสร้างทางรถไฟและถนนในระเบียงขนส่งตะวันออก (Eastern Transportation Corridor) ให้ทันสมัย ซึ่งรวมถึงเส้นทางระหว่างกรุงโซล กับเมืองชินอึยจูของเกาหลีเหนือ คำมั่นสัญญาเพิ่มเติมของเกาหลีเหนือที่จะรื้อถอนฐานทดสอบนิวเคลียร์พุงกเย-รี ให้เป็นที่ประจักษ์และเปลี่ยนเขตเวลาให้ตรงกับเกาหลีใต้ได้ดำเนินงานแล้วในเดือนพฤษภาคม 2018
ส่วนที่สำคัญที่สุดของปฏิญญาปันมุนจอม ซึ่งเป็นเจตจำนงอันแรงกล้าของเกาหลีเหนือในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ได้ดึงดูดความสนใจจากสื่อทั่วโลกในทันที สำนักข่าว CNN ได้กล่าวว่า “สองเกาหลีจะยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ โดยยุติการสู้รบ 64 ปี” ในขณะสำนักข่าว CCTV ให้ความเห็นว่า “เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือคลายความตึงเครียดทางทหารและปูทางสำหรับการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีโดยสมบูรณ์”
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2018 ผู้นำเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้พบกันอีกครั้งที่ทงอิลกัก (Tongilgak) ทางฝั่งเหนือของปันมุนจอม การประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ของสองผู้นำได้เรียกร้องให้ร่วมมือกันในการดำเนินการตามปฏิญญาปันมุนจอมและจัดการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ – สหรัฐฯ ตามที่วางแผนให้สำเร็จ ผู้นำทั้งสองยังยืนยันคำมั่นสัญญาที่จะพบกันทุกที่ทุกเวลาหากมีความจำเป็น การประชุมสุดยอดสองเกาหลีในปี 2018 เป็นช่วงเวลาแห่งการปลดอาวุธนิวเคลียร์และสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ความผูกพันที่หายไปของพวกเขาได้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง และปันมุนจอม ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยก ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
นอกจากนี้ การประชุมสุดยอดสองเกาหลีที่ประสบความสำเร็จได้วางรากฐานสำหรับการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ – สหรัฐฯ ครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2018 การประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างผู้นำของทั้งสองเกาหลี รวมถึงของผู้นำสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือได้กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสันติ ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของประชาคมโลก
นโยบายของประธานาธิบดีมุน แจอิน ในด้านคาบสมุทรเกาหลี
นโยบายของประธานาธิบดีมุน แจอินในด้านคาบสมุทรเกาหลีเป็นนโยบายระยะยาวและมีเนื้อหาครอบคลุมนำโดยเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือเพื่อให้เกิด "สันติภาพ" และ "ความเจริญรุ่งเรือง" บนคาบสมุทรเกาหลี ร่วมด้วยประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และสังคมโลก นโยบายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของสองเกาหลีให้ยั่งยืนและสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในคาบสมุทรเกาหลีและในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ โดยรักษาสันติภาพที่ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุดและส่งเสริมการเคารพซึ่งกันและกัน