ระบบการศึกษา

คนเกาหลีให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม ทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการจัดการเงินทุนและทรัพยากรที่ขาดแคลนอย่างมีประสิทธิภาพ ความต้องการของผู้ปกครองที่อยากให้บุตรหลานมีการศึกษาที่ดีส่งผลให้เกาหลีมีประชากรที่มีการศึกษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างรวดเร็ว ระบบการศึกษาพื้นฐานประกอบด้วยระดับอนุบาล (1-3 ปี) ประถมศึกษา (6 ปี) มัธยมศึกษาตอนต้น (3 ปี) มัธยมศึกษาตอนปลาย (3 ปี) และมหาวิทยาลัย (4 ปี) นอกจากนี้ยังมีการศึกษาในระดับวิทยาลัย (2 หรือ 3 ปี) และบัณฑิตศึกษา (ปริญญาโทและเอก)

คนเกาหลีทุกคนจะต้องเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นภายใต้การศึกษาภาคบังคับ โดยในปี 2013 รัฐบาลได้เริ่มให้เงินสงเคราะห์บุตรแก่เด็กทุกคนจนอายุถึง 5 ขวบ

ความสามารถในการแข่งขันด้านการศึกษาสูง

เนื่องจากเกาหลีมีระบบการศึกษาที่ดีและประชาชนให้ความสำคัญต่อการศึกษาประเทศ จึงมีประชากรที่มีทักษะความสามารถในทุกสาขาอาชีพ มหาวิทยาลัยเกาหลีได้ผลิตคนหนุ่มสาวที่มีความรู้ความชำนาญทั้งในสาขาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน รวมไปถึงฟิสิกส์ และสาขาสำคัญอื่นๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเครื่องกล การบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ และการบัญชี ผู้ที่มีการศึกษาจำนวนมากสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ และบางคนก็สามารถพูดภาษาอื่นๆ ได้ และในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหลายแห่งมีการเปิดสอนการศึกษาทางวิชาชีพช่วยให้นักเรียนมีความรู้ความชำนาญในสาขาวิชาเฉพาะทาง

จากโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (PISA) ของกลุ่มประเทศความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) พบว่านักเรียนชาวเกาหลีใต้มีผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการอยู่ในระดับสูงทั้งทางด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

จากผลการทดสอบ PISA 2018 แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเป็นหนึ่งในประเทศในกลุ่ม OECD ที่มีอันดับสูงสุดโดยอยู่ในอันดับที่ 2 จาก 7 ในด้านการอ่าน อันดับ 1 จาก 4 ในวิชาคณิตศาสตร์ และอันดับที่ 3 จาก 5 ในสาขาวิทยาศาสตร์

การลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา

เกาหลีใต้มีบุคลากรที่มีความสามารถเป็นจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในการวิจัยที่ล้ำสมัย มีทั้งสถาบันวิจัยที่ได้รับทุนวิจัยจากรัฐบาล สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน มหาวิทยาลัยและองค์กรชั้นนำระดับโลกหลายแห่งได้ทุ่มเทให้กับโครงการวิจัยมากมาย ตั้งแต่การวิจัยขึ้นพื้นฐานไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ใหม่ๆ 

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเน้นการวิจัยและการพัฒนามากขึ้นในด้านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งรวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และ Big Data

ในปี 2018 มีจำนวนนักวิจัยในสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ที่ 514,000 คน เทียบเท่ากับ 14.7 ต่อประชากรเชิงเศรษฐกิจ 1,000 คน ทำให้มีการจดสิทธิบัตรจำนวนมากทั้งในและต่างประเทศ

สังคมเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูง

สาธารณรัฐเกาหลีเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ประเทศเกาหลีเป็นประเทศแรกของโลกที่สามารถนำเทคโนโลยี CDMA และ WiBro มาใช้เชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการใช้เครือข่ายการสื่อสารไร้สาย 4G LTE ทั่วประเทศ และในเดือนมีนาคม 2019 สาธารณรัฐเกาหลีได้เป็นประเทศแรกของโลกที่ใช้เครือข่ายการสื่อสารไร้สาย 5G ทั่วประเทศ

การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขั้นสูงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแต่ละภาคส่วน รวมไปถึงนวัตกรรมของการบริหารงานของภาครัฐ โดยที่เทคโนโลยีขั้นสูงนี้มีส่วนช่วยงานในด้านการแจ้งเกิด ย้ายสำมะโนครัว หรือขึ้นทะเบียนการเสียชีวิต สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งระบบการสื่อสารสองทาง ภายใต้การบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking Service หรือ SNS) ทำให้รัฐบาลได้ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ประชาชน และประชาชนก็สามารถร้องเรียนปัญหาต่างๆ แก่รัฐบาลได้ โดยในปี 2018 เกาหลีได้ส่งออกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นจำนวน 201 รายการ เป็นมูลค่าถึง 258 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่จัดทำโดยสหประชาชาติในปี 2020 สาธารณรัฐเกาหลีอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากเดนมาร์ก โดยที่สาธารณรัฐเกาหลีเป็นอันดับ 1 ในการประเมินปี 2010, 2012 และ 2014

ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารขั้นสูง และการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้คนสามารถสื่อสารกับโลกได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเดิมไปอย่างมาก

KakaoTalk แอปพลิเคชันส่งข้อความบนสมาร์ตโฟนที่พัฒนาขึ้นในเกาหลีที่จำเป็นต่อการสื่อสารดิจิทัลของชาวเกาหลี และมีผู้ใช้บริการจำนวนมากที่ใช้บริการเครือข่ายทางสังคมอื่นๆ ด้วย เช่น Instagram และ TikTok

Podcast เป็นบริการเครือข่ายทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังกลายเป็นพื้นที่ในการสื่อสารแห่งใหม่ในโลกการสื่อสารออนไลน์ นอกเหนือจากการส่งข้อมูลหรือสร้างความบันเทิงแล้ว บริการเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ยังมีอิทธิพลต่อการเมืองผ่านทางประชามติอีกด้วย

การเปลี่ยนแปลงและวิสัยทัศน์

เกาหลีกำลังเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมฐานความรู้อย่างรวดเร็ว ทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของสังคมยิ่งไปกว่าทรัพยากรธรรมชาติและภาคการผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งมนุษย์เป็นแหล่งปฐมภูมิที่จำเป็นต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

การสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของสหประชาชาติ (UNPAN, 2020)

ในสาธารณรัฐเกาหลี การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพดีซึ่งรวมทรัพยากรมนุษย์เข้ากับทรัพยากรทางวัฒนธรรมถือเป็นภาคอุตสาหกรรมที่จะมีบทบาทสำคัญในศตวรรษที่ 21 ตัวอย่างในปัจจุบันของผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจของประเทศไม่ได้มีแค่เฉพาะเคป็อปที่ทำให้โลกตะลึงเท่านั้น แต่ละครโทรทัศน์ เช่น ผีดับคลั่ง บัลลังก์เดือด (Kingdom) และ ปักหมุดรักฉุกเฉิน (Crash Landing on You) รวมไปถึงแอนิเมชันทางทีวีสำหรับเด็ก เช่น โพโรโระ ก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน

จากข้อมูลโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index: HDI) ของประเทศเกาหลีมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้น อันเป็นผลพวงมาจากการเน้นไปที่การลงทุนและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งถือเป็นกุญแจที่สำคัญในอุตสาหกรรมการสร้างสรรค์ ดัชนีการพัฒนามนุษย์เป็นข้อมูลทางสถิติรวมของดัชนีต่างๆ ได้แก่ อายุขัย การศึกษา และรายได้ นำมาใช้ในการจัดอันดับประเทศ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับของการพัฒนามนุษย์ ในปี 2018 HDI ของสาธารณรัฐเกาหลีอยู่ที่ 0.906 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 22 จาก 189 ประเทศ